Taste of Japan

วัตถุดิบที่สำคัญในการปรุงอาหารญี่ปุ่น

ชาญี่ปุ่น

ชาเพื่อสุขภาพ รสชาติอร่อย และเสิร์ฟง่าย

อุดมไปด้วยสิ่งดีๆ จากธรรมชาติและสารอาหารนานาชนิด

 ผู้คนมีการดื่มชาเพื่อขับไล่โรคภัยตั้งแต่ในยุคสมัยก่อนเมื่อผลลัพธ์ของชาญี่ปุ่นยังไม่ได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ ในขณะที่ผู้คนยุคปัจจุบันทราบข้อดีของชาได้อย่างชัดเจนเป็นรูปธรรม ชาญี่ปุ่นมีสารแคทีชินที่มีคุณสมบัติช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือดและป้องกันการดูดซึมของไขมัน สารแคทีชินนี้เองที่เป็นปัจจัยทำให้ชาญี่ปุ่นมีความขมอันเป็นเอกลักษณ์ นอกจากนี้ ชาญี่ปุ่นยังอุดมไปด้วยวิตามินซี และสามารถบริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่สูญเสียสารอาหารเนื่องจากความร้อนหากบริโภคพร้อมกับสารแคทีชิน ในขณะที่สารอื่นๆ อาทิเช่น คาเฟอีนและธีอะนีนมีฤทธิ์ช่วยผ่อนคลาย

ฤดูกาลที่เหมาะกับชา

 ในขณะที่ชาอังกฤษแบ่งการเก็บเกี่ยวออกเป็นช่วงแรกและช่วงที่ 2 ชาญี่ปุ่นเองก็มีระยะในการเก็บยอดใบใหม่เช่นเดียวกัน ชาครั้งแรก (หรืออิชิบันฉะในภาษาญี่ปุ่น) ทำมาจากใบชาที่เพิ่งออกใหม่ในฤดูกาลนั้นๆ ในขณะที่ชาครั้งที่ 2 (นิบันฉะ) ทำจากใบชาที่ออกหลังเก็บเกี่ยวใบชาครั้งแรก ตามด้วยชาครั้งที่ 3 และนับต่อไปเรื่อยๆ ใบชาที่นำมาใช้ในชาครั้งแรกจะเก็บเกี่ยวกันช่วงกลางเดือนเมษาถึงกลางเดือนพฤษภา ชาครั้งที่ 2 จะเก็บในช่วงปลายเดือนมิถุนาถึงต้นเดือนกรกฎา ในขณะที่ชาครั้งที่ 3 จะอยู่ระหว่างกลางเดือนกรกฎาถึงต้นเดือนสิงหา ตั้งแต่สมัยโบราณ ใบชาญี่ปุ่นจะถูกเก็บเกี่ยวในช่วงวันที่เรียกกันว่า “ฮาจิจูฮาจิยะ” (มีความหมายตรงตัวว่า ‘วันที่ 88 นับจากต้นฤดูใบไม้ผลิ’) ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นปฏิทินอันเป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่นที่เราจะได้เห็นเมื่อฤดูกาลเปลี่ยนผ่านจากฤดูใบไม้ผลิเป็นฤดูร้อน (ต้นเดือนพฤษภาคม) แม้กระทั่งในปัจจุบัน วันก่อน/หลังวันดังกล่าวก็ยังเป็นช่วงเวลาเก็บใบชาที่วุ่นที่สุด

ชนิดของชาญี่ปุ่นและวิธีการดื่ม

 ชาญี่ปุ่น ชาอังกฤษ และชาอู่หลงล้วนแล้วแต่ทำมาจากใบชาชนิดเดียวกัน เพียงแต่มีกระบวนการผลิตแตกต่างกันไป กฎสำคัญในการทำใบชาญี่ปุ่นคือ "การนำไปอบ ถู และตากแห้ง" ซึ่งถือว่าง่ายกว่าชาอังกฤษและชาอู่หลงค่อนข้างมาก นอกจากนี้ ชาญี่ปุ่นยังมีหลายรูปแบบ แตกต่างกันไปตามระยะการเก็บเกี่ยวใบชาและวิธีการทำชา

ของหวานรสมัจฉะ อาหารที่เหล่าคนรักของหวานทั่วโลกยอมรับ

 ของหวานรสชาติมัจฉะได้รับความสนใจจากผู้คนทั่วโลก รวมถึงประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ไต้หวันและไทย ในขณะที่ชามัจฉะยังถูกนำไปเสิร์ฟในพิธีชงชาดั้งเดิมของญี่ปุ่น ความขมเล็กๆ นับเป็นปัจจัยที่ทำให้ชาชนิดนี้ได้รับความนิยมอย่างไร้ขอบเขต เพราะให้รสชาติที่ไม่หวานจนเกินไป อีกทั้งยังมีความสดใหม่ นอกจากนี้ มัจฉะยังช่วยกระตุ้นไอเดียสร้างสรรค์ของเหล่าปาติซิเย่ทั่วโลกได้เป็นอย่างดี เพราะมีรสชาติที่สามารถนำไปใช้ในของหวานได้หลากหลายชนิด อาทิเช่น ไอศครีม เค้ก และพุดดิ้ง อีกทั้งยังมีรูปแบบผงที่ง่ายต่อการนำไปใช้เป็นส่วนผสมในของหวาน และยังมีคุณประโยชน์ดีๆ ให้เราสามารถคาดหวังผลลัพธ์เพื่อสุขภาพ เนื่องจากอุดมไปด้วยสารแคทีชิน